วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2566

E-Book สังคมใหม่ สังคมเสมอภาค

ตุลาคม 14, 2566 0 Comments

  เว็บไซต์สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ได้เผยแพร่ E-Book สังคมใหม่ สังคมเสมอภาค ทางแอดมินเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา จึงได้เรียนเชิญผู้ที่สนใจ ดาวน์โหลดไว้เพื่อศึกษาหาความรู้



สำนวนไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน

ตุลาคม 14, 2566 0 Comments

     เว็บไซต์สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ได้เผยแพร่ E-Book สำนวนไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน ทางแอดมินเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา จึงได้เรียนเชิญผู้ที่สนใจ ดาวน์โหลดไว้เพื่อศึกษาหาความรู้


วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2566

พลวัตความมั่นคงภูมิภาคตะวันออกกลาง: ทิศทาง โอกาส และความร่วมมือ บนความขัดแย้ง

ตุลาคม 10, 2566 0 Comments

 วารสารมุมมองความมั่นคง ฉบับที่ 6 ประจำเดือนกุมภาพันธ์- พฤษภาคม 2564 โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เผยแพร่ บทความเรื่อง พลวัตความมั่นคงภูมิภาคตะวันออกกลาง: ทิศทาง โอกาส และความร่วมมือ บนความขัดแย้ง ทางแอดมินเห็นว่าเป็นประโยชน์ในด้านการศึกษา จึงขอนำมาเผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจ


หนังสือ ไม่มีเวลาไม่มีในโลก

ตุลาคม 10, 2566 0 Comments

 เว็บไซต์ https://www.kalyanamitra.org/ ได้เผยแพร่หนังสือ ไม่มีเวลาไม่มีในโลก แอดมินเห็นว่ามีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ จึงได้นำมาให้ดาวน์โหลดเพื่อการศึกษา


                                         ดาวน์โหลดไฟล์แนบ

หนังสือ 5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย

ตุลาคม 10, 2566 0 Comments

 หนังสือ 5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย แอดมินเห็นว่ามีประโยชน์จึงนำมาให้ผู้ที่สนใจทำการดาวน์โหลดไว้เพื่อการศึกษา


หนังสือ ปทุมเจดีย์ "เจดีย์ดอกบัว"

ตุลาคม 10, 2566 0 Comments

 เว็บไซต์ https://www.kalyanamitra.org/ เผยแพร่หนังสือ ปทุมเจดีย์ "เจดีย์ดอกบัว" แอดมินเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาจึงได้นำมาให้ผู้ที่สนใจได้ดาวน์โหลด


ดาวน์โหลดไฟลแนบ

วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566

แนวทางการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา

ตุลาคม 07, 2566 0 Comments

หนังสือ กำเนิดโลกและมนุษยชาติ PDF

ตุลาคม 07, 2566 0 Comments

     เว็บไซต์www.kalyanamitra.org เปิดให้ดาวน์โหลดหนังสือฟรี แอดมินเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อครูสังคมศึกษา นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ขอเชิญชวนให้ดาวน์โหลดไว้


หนังสือ อารยธรรมโลก PDF

ตุลาคม 07, 2566 0 Comments

      เว็บไซต์ https://www.kalyanamitra.org/ ได้เปิดให้ผู้ที่สนใจหนังสือได้ดาวน์โหลดฟรี แอดมินเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อครูสังคมศึกษา นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่สนใจ ได้ดาวน์โหลดฟรี


วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566

มณฑลปัตตานี

กันยายน 27, 2566 0 Comments

 



มณฑลปัตตานี เป็นมณฑลที่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2449 มีเมืองใหญ่น้อยรวมกัน 7 เมือง คือ ปัตตานี ยะลา ยะหริ่ง ระแงะ ราห์มัน สายบุรี และหนองจิก ปัจจุบันคือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อันประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี นราธิวาส และยะลา หลังจากจัดตั้งเป็นมณฑลปัตตานีโดยสมบูรณ์ ได้ยุบหัวเมืองทั้ง 7 เหลือเพียง 4 เมือง คือยุบเมืองหนองจิกและยะหริ่ง เข้ากับเมืองปัตตานี ยุบรวมเมืองราห์มันเข้ากับยะละรวมเรียกยะลา ส่วนระแงะกับสายบุรี คงไว้เช่นเดิม กระทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องกับนโยบายยกเลิกระบบเจ้าเมือง โดยอาศัยช่วงที่เจ้าเมืองคนใดคนหนึ่งถึงแก่อสัญกรรมแล้วไม่แต่งตั้งคนใหม่ทดแทน แต่มีการโยกย้ายยุบรวมตามความเหมาะสม ต่อมายุบเมืองระแงะเข้ากับบางนรา แล้วเปลี่ยนชื่อบางนราเป็นเมืองนราธิวาส เมื่อ พ.ศ 2458 ปีต่อมา พ.ศ. 2459 โปรดให้เรียกทุกเมืองที่เหลืออยู่เป็นจังหวัด มณฑลปัตตานีตอนนั้นจึงประกอบด้วย 4 จังหวัด คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดสายบุรี จนกระทั่งปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 เมื่อมีการประกาศยุบเลิกมณฑลปัตตานี ได้ลดฐานะจังหวัดสายบุรีเป็นอำเภอตะลุบัน

มณฑลปัตตานีแตกต่างจากมณฑลทั่วไป คือ ประกอบด้วยราษฎรหลากหลายเชื้อชาติ ภาษา ขนบธรรมเนียมและศาสนา จึงมีการผ่อนผันเป็นพิเศษให้สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่น เช่น ผ่อนผันให้เกณฑ์ชายฉกรรจ์เป็นตำรวจภูธรแทนการเกณฑ์เป็นทหาร เนื่องจากชาวมุสลิมไม่พอใจในการเกณฑ์เป็นทหาร ได้มีการจัดตั้งศาลเป็น 2 ศาล คือ ศาลทั่วไปและศาลสำหรับการพิจารณาคดีศาสนาอิสลาม รัฐบาลยังประกาศยกเว้นการเก็บภาษีบางอย่าง เช่น ภาษีค่านา ค่าราชการ และสรรพภาษีภายใน

จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2474 มณฑลปัตตานีได้ถูกรวมเข้ากับมณฑลนครศรีธรรมราช


ที่มา

..............................................................................................................................................................................

  1. มณฑลเทศาภิบาล : วิเคราะห์เปรียบเทียบ, 350.
  2.  สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ. "คำนำพงศาวดารเมืองปัตตานี". 4.
  3.  มณฑลเทศาภิบาล : วิเคราะห์เปรียบเทียบ, 356.
  4.  "กรณีเจ้าแขกเจ็ดหัวเมือง การเริ่มต้นความจริงเกี่ยวกับปัตตานี ด้วยประวัติศาสตร์แห่งการลวง". ศิลปวัฒนธรรม.
  5.  ปิยดา ชลวร. "ส่วย ภาษีและผลประโยชน์ของเจ้าเมืองปัตตานี" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-08-28. สืบค้นเมื่อ 2021-08-28.
  6.  "ภูมิศาสตร์มณฑลปัตตานี" (PDF).
  7.  "ยุบรวมพื้นที่บางมณฑลและบางจังหวัด" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2021-08-28.
  8.  มณฑลเทศาภิบาล : วิเคราะห์เปรียบเทียบ, 377.
  9.  มณฑลเทศาภิบาล : วิเคราะห์เปรียบเทียบ, 379.


วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566

หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม PDF

กันยายน 26, 2566 0 Comments

     สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผยแพร่หนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  "พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว"


ดาวโหลดไฟล์แนบ

วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566

แหล่งมรดกโลกในประเทศไทย World Heritage Site

กันยายน 22, 2566 0 Comments

 


    แหล่งมรดกโลก หรือ World Heritage Site เป็น พื้นที่ที่ได้รับจากขึ้นทะเบียนจาก ยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งก็คือ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) เป็นสถานที่ซึ่งถือว่าสำคัญต่อประโยชน์โดยรวมของมนุษยชาติ และได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายตามสนธิสัญญา โดยจะมีคณะกรรมการ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการคัดเลือกว่า พื้นที่นั้นๆ มีความเหมาะสม ในการพิจารณาให้เป็น “แหล่งมรดกโลก” 


      สำหรับประเทศไทย องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศไทยทั้งสิ้น 7 รายการ ประกอบด้วยแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 4 รายการ และแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ 3 รายการ ดังนี้

แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม


      กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแห่งที่สองของชาวสยามต่อจากกรุงสุโขทัย ถูกทำลายโดยกองทัพพม่าในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ซากปรักหักพังสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เช่น ปรางค์ และอารามขนาดใหญ่แสดงถึงความงดงามและความเจริญรุ่งเรืองในอดีต


    กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของชาวสยามในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 สิ่งก่อสร้างจำนวนมากแสดงถึงจุดเริ่มต้นของสถาปัตยกรรมไทย อารยธรรมอันยิ่งใหญ่ได้พัฒนาขึ้นในอาณาจักรสุโขทัยผ่านการซึมซับอิทธิพลและประเพณีท้องถิ่นโบราณไว้มากมาย การผสมผสานอย่างรวดเร็วขององค์ประกอบเหล่านี้ ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า 'รูปแบบสุโขทัย'

    บ้านเชียงถือเป็นที่ตั้งถิ่นฐานยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งเท่าที่มีการค้นพบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญของวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมสังคมและเทคโนโลยีของมนุษย์ แหล่งมรดกนี้ได้แสดงหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของ การเกษตร การผลิต และการใช้โลหะ ในภูมิภาค

    ประกอบด้วย สามพื้นที่สำคัญของวัฒนธรรมทวารวดีในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 ได้แก่ 1. เมืองใน (เมืองชั้นใน) และเมืองนอก (เมืองขั้นนอก) ที่ล้อมรอบด้วยคูน้ำ 2. โบราณสถานเขาคลังนอก อนุสรณ์สถานสมัยทวารวดีที่ใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ และ 3. ถ้ำเขาถมอรัตน์ อารามถ้ำของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างศิลปะและปฏิมากรรมสมัยทวารวดีที่สำคัญ

แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ


    พื้นที่มากกว่า 600,000 เฮกตาร์ ตามแนวชายแดนกับประเทศพม่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซึ่งค่อนข้างสมบูรณ์ ประกอบด้วยผืนป่าเกือบทุกประเภทที่มีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นบ้านของสัตว์หลากหลายชนิด ซึ่งรวมถึง 77% ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ (โดยเฉพาะช้างและเสือโคร่ง) 50% ของนกขนาดใหญ่ และ 33% ของสัตว์มีกระดูกสันหลังบกที่พบในภูมิภาคนี้


    กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มีความยาว 230 กม. ระหว่างอุทยานแห่งชาติตาพระยาติดชายแดนกับประเทศกัมพูชาทางทิศตะวันออก และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทางทิศตะวันตก พื้นที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์กว่า 800 ชนิด ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวน 112 สายพันธุ์ (ในจำนวนนี้มีชะนีสองสายพันธุ์) สัตว์ชนิดนก 392 สายพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกกว่า 200 สายพันธุ์ การอนุรักษ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก และสัตว์เลื้อยคลานที่ทั่วโลกกำลังคุกคามและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มีความสำคัญในระดับนานาชาติ โดยในจำนวนนี้มี 19 สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยง 4 สายพันธุ์ที่เสี่ยงมาก และ 1 สายพันธุ์ที่เสี่ยงขั้นวิกฤต พื้นที่ดังกล่าวมีระบบนิเวศป่าดิบชื้นที่สำคัญและอุดมสมบูรณ์ซึ่งสามารถเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเพื่อการอยู่รอดในระยะยาวของสัตว์สายพันธุ์เหล่านี้

    แหล่งมรดกนี้ตั้งอยู่ตามแนวเทือกเขาตะนาวศรีด้านประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสันเขาหินแกรนิตและหินปูนในแนวเหนือ-ใต้ลงสู่คาบสมุทรมลายู ตั้งอยู่ที่ทางแยกระหว่างเทือกเขาหิมาลัย อินโดจีน และเกาะสุมาตรา เป็นดินแดนแห่งสัตว์และดอกไม้ สถานที่แห่งนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพมากมาย ทั้งป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าเต็งรัง มีรายงานพันธุ์พืชและสัตว์ป่าเฉพาะถิ่นและที่ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลกในพื้นที่นี้ ซึ่งทับซ้อนกับพื้นที่นกสำคัญ 2 แห่ง และขึ้นชื่อว่ามีนกหลากหลายชนิด รวมถึงสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ทั่วโลก 8 ชนิด สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของจระเข้สยาม หมาใน วัวแดง ช้างเอเชีย เต่าเหลือง และเต่าหก รวมทั้งสัตว์อีกหลายชนิด นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์อื่นที่อ่อนแอ ที่พิเศษคือที่นี่ยังเป็นที่อยู่ของแมว 8 สายพันธุ์ ได้แก่ เสือโคร่ง เสือปลา เสือดาว เสือไฟ เสือลายเมฆ แมวลายหินอ่อน แมวป่า และแมวดาว

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/

วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566

คู่มือผู้เล่าเรื่องธรณี "สวนหินพุนางนาค"

กันยายน 14, 2566 0 Comments

     กรมทรัพยากรธณีวิทยา เปิดให้ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่สนใจ ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องธรณีวิทยาให้ดาวน์โหลด E-Book คู่มือผู้เล่าเรื่องธรณี "สวนหินพุนางนาค" ฟรีที่เว็บโซต์กรมทรัพยากรธรณีวิทยา https://www.dmr.go.th/


วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

ภาพแผ่นดินไทยสมัยรัชกาลที่ ๙ และ ๑๐

กันยายน 12, 2566 0 Comments
        กระทรวงศึกษาธิการ ได้เผยแพร่ E-Book ภาพแผ่นดินไทยสมัยรัชกาลที่ ๙ และ ๑๐ 
แอดมินเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ครูสังคมศึกษาต่อการนำไปใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอน หรือสำหรับนักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจ


วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2566

เรียนเชิญคุณครูดาวน์โหลดคู่มือครูฟรี

สิงหาคม 25, 2566 0 Comments

 


    แอดมินขออนุญาตนำเสนอ คู่มือครูดาวน์โหลดฟรี ในส่วนของวิชาโลกและดาราศาสตร์ ของช่วงชั้น ม.4 - ม.6 ซึ่งเกี่ยวข้องกับครูสังคมศึกษาโดยตรงในสาระภูมิศาสตร์ ซึ่งสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) ที่เปิดให้คุณครูดาวน์โหลดตรงตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ได้ฟรี  คลิกที่เว็บไซต์ คลังความรู้สู่ความเป็นเลิศ สสวท. https://www.scimath.org/teacherguide 

คลิกดาวน์โหลด

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2566

10 คาถามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม

สิงหาคม 24, 2566 0 Comments

 


1.คาถาเมตตามหานิยม

นะ เมตตา

โม กรุณา

พุท ธปราณี

ธา ยินดี

ยะ เอ็นดู

นะโมพุทธายะ นะมะอะอุ


    ใช้ภาวนาคาถาก่อนออกจากบ้าน จะทำให้คนที่พบเจอมีความรู้สึกที่ดี การติดต่อใดๆ ก็จะราบรื่นไม่ติดขัด หรือของอีกสำนักหนึ่งว่าสั้นๆ ดังนี้ "เมตตา คุณะณัง อะระหัง เมตตา"

 

 

2.คาถาการเจรจา

นะโมพุทธายะ มะอะอุ ยะธาพุทโมนะ

อุอะอะ อิสวาสุ สัพพะทัสสะ อะสังวิสุ โลปุสะพุภะ

ใช้ภาวนากับน้ำล้างหน้าตอนเช้าก่อนออกจากบ้านไปติดต่อเจรจาเรื่องสำคัญ จะทำให้สำเร็จในสิ่งที่หวังไว้

 

3.คาถาขายของดี

ตั้งนะโม ๓ จบ

อมเฐิบฯ มะ หา เฐิบฯ สาระพัดเฐิบฯ สะ วา หะฯ (“เฐิบ” เป็นคำโบราณ อ่านว่า “เทิบ”)

 

    สวด 9 จบ ก่อนเปิดร้านขายของประจำ เพื่อให้การค้ารุ่งเรืองได้กำไรงาม มีแต่ความราบรื่น ร่ำรวย และรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ให้เสกน้ำ 108 จบ พรมของขายดี จะใช้บูชาแม่นางกวักก็ได้ด้วย

 

4.คาถาเจ้านายเมตตา

ปัญจะมังสิระสังขาตัง นาหาย

นะกาโร โหติ สัมภะโว อิสวาสุ

    ให้สวดท่องภาวนา 3 จบ ก่อนออกจากบ้าน แล้วเจ้านายจะเมตตา


5.คาถาใจอ่อน

ปัญจะมังสิระสังชาตัง นะอตใจ นะกาโร โหติ สัมภะโว

ตรีนิกัตวานะ นะ การัง ปัญจะสัมภะวัง

     

    ใช้ท่องก่อนที่จะพบเจรจากับคนที่เป็นเจ้าหนี้หรือใครก็ตาม จะทำให้ได้รับการผ่อนปรน ใจอ่อนได้ทุกที

 

6.คาถานะเมตตา

    ขาดเสน่ห์ ขาดเมตตา อยากจะให้ มีนะเมตตา ท่านว่าต้องหาตัวช่วย พุทธคุณ...เสกแล้วใครเห็นจักเมตตาเอ็นดูเรา ปลุกเสกด้วยพระคาถาบทนี้


ปิโยเทวมนุสสานัง ปิโยพรมหา นะมุตตะโม ปิโยนาคะ ปุปันนานัง ปินินทรียัง นะมามิหัง โสคาวิระตะจิตโตโย โสกะมาโน สะเทวะเก โสกัปเปเต นะโม เทนโต โสภะวันนัง นะมามิหัง

 

    และพระเวทอาคมบทนี้ ลองนำไปใช้กับตัวเอง ให้บริกรรมก่อนนอน 108 จบ หรือจะออกจากบ้านไปไหนให้บริกรรมพระเวทบทนี้ครบ ๑08 จบ รับรองว่าไปไหนจักมีคนมอง โดยเฉพาะเพศตรงข้ามจักรักแลให้ความสนใจตัวเรากว่าแต่เมื่อก่อน

 

7.คาถาพญาเต่าเรือน

    เมื่ออยากจะชนะใจคนต้องหาตัวช่วย และอาคมเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ พุทธคุณ...ปลุกเสกไปว่าความจักชนะคดีท่านว่าพระคาถานี้มีความขลังเหลือเหนือธรรมชาติ ที่ใครๆ คาดคิดไม่ถึงว่าจะมีพลานุภาพเป็นเลิศ และยิ่งใหญ่เหมาะสำหรับอาชีพทนายความ เซลแมน ควรมีไว้ติดตัวให้เขียนอักขระอาคมนี้ใส่ในการะดาษว่าว เขียนชื่อคู่ความที่เป็นฝ่ายคู่กรณี แล้วเอากระดาษว่าวนี้นำไปควั่นเป็นไส้เทียน นั่งจิตภาวนาปลุกเสกด้วยพระคาถาพญาเต่าเรือ แต่ก่อนจะบริกรรมท่องพระเวทท่านจะต้องสวดมนต์บทหัวใจของ พระคาถาและหัวใจของพระพุทธเจ้าดังนี้

นะโมพุทธายะ นะโมพุทธายะ นะโมพุทธายะ

(สวด ๓ จบ ก้มลงกราบ ๓ ครั้ง)

จึงให้บริกรรมท่องบทพระเวทดังนี้

นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นาสังสิโม จะอะพะคะ อิกะมะภะ ทะทะชะสิ กะระมะถะ จะภะกะสะ นาสังสิโม นะเปื้อน พุทธาเฟือนหัวใจ โมหลงใหล ยะวังเวงสูญเปล่า นะจังงัง โมจังงัง พุทปิดทาง ระปิดหู

    พระคาถานี้มีประจุอยู่ในเต่าใหญ่ ท่านที่ลงในไส้เทียนทำให้เป็นน้ำมนต์ปลุกเสกอาคมดื่มหรือพรมลงบนศีรษะ รับรองท่านไปว่าความหรือเจรจาสิ่งใด จักไม่มีอุปสรรค จะมีแต่ดีและชนะกลับมา

 

8.คาถาเมตตา 32 ประการ

นะโมเม ถะรุยะสา โสวะกัม นิโจเร วาหิ พะเนรัง มุเตนัง ยิเทนะ พุทธะ พาลา อิละโข ติงเธ

 

9.คาถาเมตตาจิต

เมตตัญจะ สัพพะโลกัส์มิง มานะสัมภาวะเย พุทโธละลวย ธัมโมหาย สังโฆสูญ นะจังงัง โมจังงัง พุทละลวย ธาละลวย ยะสูญหาย คลายจิต ฯ

 

    พระคาถาบทนี้ ถ้าเจ้านายโกรธมาก ให้ภาวนาไปเถิดหายสิ้นแลฯ

 

10.คาถาเมตตามหาเสน่ห์

คาถาเมตตามหาเสน่ห์ ตั้งนะโม ๓ จบ อักโขหะมัสสะมิ โลกัสสะ อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติ

โพธิมะนุปัตโต อิติปิโส จะ เต นะโม อะระหัง ลาโภ พุทโธ ลาภัง นะชาลีติ

นะมะพะทะ สัพเพ ชะนา พหู ชะนา ราชาปุริโส อิตถิโยมาพัง เอหิ จิตตัง ปิยัง มะมะ

เอหิ มาเร โส มามา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ คาถาเมตตามหาเสน่ห์ของหลวงปู่ศุข (วัดปากคลองมะขามเฒ่า)